3 สิ่งที่ “เจ้าของแบรนด์” ควรรู้ก่อนตัดสินใจทำ “เพลงประจำแบรนด์” ของตัวเอง
ปัจจุบันมีคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบที่แบรนด์สามารถเลือกใช้เพื่อสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็น ภาพโฆษณา วิดีโอโฆษณา หรือ บทความต่างๆ
แต่วันนี้เราอยากจะมาพูดถึงคอนเทนต์อีกรูปแบบนึงที่มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน และ หลายๆแบรนด์กำลังหันมาเลือกใช้เพื่อช่วย สร้างความแตกต่าง สร้างสีสัน ให้แบรนด์มีชีวิตชีวา และ เข้าใจถึงใจของผู้คนได้มากขึ้น นั่นก็คือ “เพลง”
แต่ก่อนจะเริ่มทำ “เพลงโฆษณา” หรือ “เพลงประจำแบรนด์” ของคุณเอง เราอยากจะมาแชร์ 3 ข้อควรรู้ ที่จะช่วยให้คุณเตรียมพร้อมสำหรับการทำเพลงประจำแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
🔻1. Key Message : รู้ว่าอะไรคือ message สำคัญที่คุณอยากสื่อสารผ่านเพลง ?
เนื่องจาก “เพลง” เป็นคอนเทนต์ที่ต่างจากคอนเทนต์ประเภทอื่นๆ เพราะ โดยทั่วไปแล้ว เพลงที่เรายินได้กันมักมีความยาวมาตรฐานอยู่เพียง 3 – 4 นาที เท่านั้น และ สำหรับ “เพลงโฆษณา” แล้ว ยิ่งมีความยาวที่น้อยลงไปอีก โดยอาจจะมีความยาวอยู่ที่เพียง 1 นาที , 30 วินาที , 15 วินาที หรือเพียง 10 วินาทีเท่านั้น
ดังนั้นการที่จะทำให้ “เพลงโฆษณา” หรือ “เพลงประจำแบรนด์ของคุณ” เป็นที่น่าจดจำ และ ติดหูได้นั้น สิ่งแรกที่สำคัญ คือ ต้องเริ่มจากการมี “คอนเซปท์ชัดเจน” ก่อนว่า แบรนด์อยาก “บอกเล่าเรื่องราวอะไร” “สื่อสารความรู้สึกแบบไหน” ไปสู่ลูกค้าของคุณ เพราะ ในเวลาอันสั้นของเพลงๆหนึ่งอาจไม่สามารถใส่ทุกคำพูด ทุกประโยค ทุกเรื่องราวของแบรนด์ลงไปได้ จึงควรเลือกใช้ Message สำคัญที่สุดเท่านั้น
โดยสูตรทั่วๆไปที่มักนิยมใช้ในการแต่งเพลงโฆษณา ก็คือ “ชื่อแบรนด์” + “สโลแกน”+ ”จุดเด่นของแบรนด์ที่ไม่ซ้ำใคร” เพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้เพลงประจำแบรนด์ของคุณมีคอนเซปท์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นได้
🔻2 . Platform : รู้ว่าคุณจะนำเพลงนั้นไปใช้ในช่องทางไหน ?
ปัจจุบันนี้มีช่องทางที่แบรนด์จะสามารถเผยแพร่คอนเทนต์ของตัวเองออกไปได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สื่อออนไลน์ อย่าง Facebook , IG, Youtube , Tiktok หรือ สื่อดั้งเดิม อย่าง โทรทัศน์ วิทยุ ซึ่งในแต่ละช่องทางก็มักจะมี “กลุ่มผู้ใช้งาน” ที่แตกต่างกันไป ทำให้เพลงที่เหมาะสมกับแต่ละช่องทางย่อมต้องมีความแตกต่างกันไปด้วย
ยกตัวอย่าง Platform ที่กำลังเป็นนิยมอยู่ในตอนนี้อย่าง Tiktok ซึ่งเป็น คอนเทนต์วิดีโอแบบสั้น ผู้ใช้งานส่วนมากเป็นกลุ่ม Gen Z ที่นิยมเข้ามาเสพคอนเทนต์เพื่อความบันเทิง ดังนั้น การทำเพลงประจำแบรนด์เพื่อเน้นเผยแพร่ในช่องทางนี้ ก็ควรมีความสั้น กระชับ ตรงประเด็น สนุกสนาน และ ที่สำคัญคือ สามารถ Grab Attention ของคนดู คนฟัง ได้ตั้งแต่ วินาทีแรกของเพลง หรือ อาจจะเพิ่มความน่าสนใจด้วยการทำแคมเปญ Tiktok Challenge ที่มีทั้ง เพลง และ ท่าเต้น เพื่อให้คนได้มีส่วนร่วมกับคอนเทนต์ของแบรนด์มากขึ้น
ดังนั้น การทำความเข้าใจช่องทางการสื่อสารของแบรนด์ให้ดี จึงมีความสำคัญต่อการเลือกใช้เพลงให้เหมาะสมด้วยเช่นกัน
🔻3. Purpose : รู้ว่าคุณจะนำเพลงนั้นไปใช้ประโยชน์อย่างไร ?
จากประสบการณ์ของเราที่ผ่านมา จุดนึงที่หลายๆท่านมักลืมให้ความสำคัญไปก่อนการตัดสินใจทำเพลงประจำแบรนด์ของตัวเอง คือ “วัตถุประสงค์ในการนำเพลงไปใช้งาน” ซึ่งเมื่อไม่มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนแล้ว หลายครั้งๆก็ทำให้แบรนด์ไม่ได้นำเพลงเหล่านั้นไปใช้งานจริง ซึ่งอาจเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจทำเพลงประจำแบรนด์ของคุณ เราอยากให้ลองตั้งโจทย์ดูก่อนว่า อยากนำเพลงไปใช้ประโยชน์อย่างไร ? ยกตัวอย่างเช่น
✅ ใช้สร้าง Brand Awareness บน Socia Media
✅ ใช้ประกอบสื่อโฆษณาวิทยุ และ โทรทัศน์
✅ ใช้เป็นเพลงเปิดประจำในร้านค้าของแบรนด์
✅ ใช้โปรโมทแคมเปญ หรือ โปรโมชั่นของแบรนด์
✅ ใช้เป็นเพลงขอบคุณลูกค้าในโอกาสำคัญต่างๆของแบรนด์
ทั้งนี้เพราะ การตั้งโจทย์ที่ชัดเจนว่า อยากจะนำเพลงไปใช้ประโยชน์อย่างไร ? เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะทำให้โปรดิวเซอร์ และ ทีมทำเพลง สามารถออกแบบ และ ผลิตเพลงออกมาได้ตอบโจทย์การใช้งานของแบรนด์มากที่สุด
สนใจปรึกษาเรื่องการทำเพลงสำหรับธุรกิจ และ คอนเทนต์ของคุณ ติดต่อได้ที่
: Inbox : https://m.me/MosmileMusic95
Mosmile Music ยินดีให้คำแนะนำครับ : )
